แข็งแกร่งสุดในปฐพี นักวิ่งสหรัฐ ฆ่าเสือภูเขาด้วยมือเปล่า !

แข็งแกร่งสุดในปฐพี นักวิ่งสหรัฐ ฆ่าเสือภูเขาด้วยมือเปล่า !

7 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เสือภูเขาจู่โจมชายคนหนึ่ง ขณะวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเพียงลำพัง บนเส้นทางวิ่งในวนอุทยานสหรัฐฯ เขาต่อสู้และฆ่าเสือด้วยมือเปล่า ก่อนวิ่งกลับไปที่รถและขับไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองเจ้าหน้าที่วนอุทยานและสัตว์ป่ารัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา 

เปิดเผยว่า ชายคนดังกล่าวถูกเสือภูเขาจู่โจมจากด้านหลังขณะกำลังวิ่งตามแนวภูเขาตามลำพัง นักวิ่งคนดังกล่าวต่อสู้กับเสือภูเขาอย่างเต็มที่ด้วยมือเปล่า และทำให้เสือขาดใจตาย จากนั้นจึงวิ่งกลับไปที่รถของตัวเองและขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทั้งแผลโดนกัดขนาดใหญ่บนใบหน้า ข้อมือ และหลัง รวมถึงแผลถูกตะปบตามแขนและขา โดยเป็นบาดแผลลึกที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

เสือภูเขาตัวดังกล่าวมีน้ำหนักตัวประมาณ 36 กิโลกรัม เป็นเสือเพศผู้ที่เพิ่งโตเป็นหนุ่ม ลิน คัลเลนส์ ผู้บริหารมูลนิธิไม่แสวงผลกำไรเพื่อการอนุรักษ์เสือภูเขา แนะนำว่า หากพบกับเสือภูเขาในเขตป่า ‘อย่าวิ่งหนีเด็ดขาด’ แต่ต้องยืนปักหลักให้มั่นคง เผชิญหน้ากับเสือภูเขาโดยยืดตัวเต็มที่และส่งเสียงดัง ถ้ามีอาวุธหรืออุปกรณ์ช่วยให้ใช้ต่อสู้กับเสืออย่างเต็มที่

คัลเลนส์แนะนำนักวิ่งหรือผู้ที่เดินป่าในเส้นทางภูเขา ให้เลือกสวมเสื้อผ้าที่มีสีสันตัดกันให้มากที่สุด เช่น สีแดงตัดกับสีขาว หรือสีขาวตัดสีดำ จะช่วยให้เสือไม่มองบุคคลดังกล่าวในฐานะเหยื่อ เพราะในความเป็นจริง เสือก็กลัวมนุษย์เช่นกัน และ ‘อย่าหันหลัง’ ให้เสือ

นับตั้งแต่ปี 1990 มีผู้บาดเจ็บเพราะเสือภูเขาโจมตี 16 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียง 3 ราย แต่ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บร้ายแรง 1 ราย ขณะปั่นจักรยานตามแนวภูเขาในรัฐวอชิงตัน และเสือภูเขาที่โจมตีเป็นเพียงเสือผอมโซ แต่ผู้ถูกโจมตีตกใจและพยายามหนี โดยเหตุเกิดขึ้นที่นอร์ธเบนด์ ห่างจากเมืองซีแอตเติลประมาณ 48 กิโลเมตร

ผู้จัดการวนอุทยานและสัตว์ป่าโคโลราโด เขตตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนให้คนต่อสู้อย่างเต็มที่เมื่อเผชิญกับเสือหรือสิงโต เพราะมีโอกาสที่จะรอดมากกว่าการวิ่งหนี ถ้าพบเสือหรือสัตว์ป่าตามข้างทางอย่าเข้าไปใกล้ แต่จงมีสติและอย่าวิ่งหนีในทันที แต่ให้จ้องตาเสือหรือสัตว์ป่าและค่อยๆ ถอยออกจากจุดที่เผชิญหน้า และถ้าสัตว์ป่าเข้าใกล้ในระยะประชิดแนะนำให้เล่นงานที่ดวงตา

จากกรณีของฮาคีม อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ออสเตรเลีย ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ขณะเดินทางมาฮันนีมูนกับภรรยา และยังถูกคุมขังอยู่ในประเทศไทยนั้น

นายนิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับประเทศไทยบ่อยที่เพื่อนบ้านทะเลาะกัน ไม่เผาผีกัน หาว่าอีกฝ่ายขโมยของแล้วก็โยนของกลางข้ามรั้วมาบ้านเรา จากนั้นทำตาขมึงจ้องใส่เราทั้งสองฝ่ายว่าเราจะคืนของกลางให้ใคร โดยนายนิติพงษ์ ระบุว่า โยนลงทะเลไปเลยได้ไหม เพราะไม่เกี่ยวจริงๆ จะมาบอยคอตทำไม

กระทรวงต่างประเทศบาห์เรน แถลงการณ์แจง “ฮาคีม” หนีไปอิหร่าน ผิดกฎหมายบาห์เรน

วันที่ 5 ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศบาห์เรน ออกแถลงการณ์กรณี นายฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลบาห์เรน วัย 25 ปี ซึ่งถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำที่กรุงเทพฯ รอการพิจารณาของศาลอาญาตัดสินจะส่งตัวนายฮาคีมกลับมายังบาห์เรน โดยศาลนัดครั้งต่อไปวันที่ 22 เม.ย. นั้น

กระทรวงการต่างประเทศบาห์เรน ระบุว่า ที่ทางการบาห์เรนออกหมายจับนายฮาคีม อัล อาไรบีนั้น มาจากนายฮาคีม อัล อาไรบี ได้หลบหนีขณะรอการพิจารณาคดีในบาห์เรน ระหว่างเดินทางไปร่วมการแข่งขันฟุตบอลในกาตาร์ เมื่อ ธ.ค. 2556 นายฮาคีมกลับได้หลบหนีไปยังประเทศอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ได้รับการประกันตัว

ต่อมานายฮาคีมได้ลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2557 และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากรัฐบาลออสเตรเลีย ให้อาศัยในออสเตรเลียได้ไม่จำกัดเวลา ก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยพร้อมภรรยา และถูกทางการไทยจับกุมตามหมายจับอินเตอร์โพลที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อ พ.ย.61 ที่ผ่านมา จนต่อมาเกิดกระแสกดดันจากประเทศออสเตรเลียและนานาชาติให้ปล่อยตัวฮาคีม เป็นกระแส #savehakeem ขึ้นมา

การที่รัฐบาลบาห์เรนขอให้อินเตอร์โพลออกหมายจับนายฮาคีม อัล อาไรบีนั้น เป็นระเบียบมาตรฐานของชาติสมาชิกทั้งหมดของอินเตอร์โพล ซึ่งนายฮาคีม อัล อาไรบี เป็นจำเลยในคดีอาญาที่ประเทศบาห์เรน แต่อดีตนักฟุตบอลทีมชาติคนนี้ไม่ได้มาขึ้นศาลเพื่อปกป้องตนเอง หรือการปฏิเสธข้อกล่าวหา รวมทั้งข้อหาการวางเพลิงและทำลายทรัพย์สินของทางการ ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศบาห์เรน ในขณะที่นายฮาคีม อัล อาไรบี ยังคงมีสิทธิ์จะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาล ถ้าเขามาขึ้นศาลบาห์เรน

ทั้งนี้แล้วก็ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่ากระแสการแห่ลงทุนหักหน้านักลงทุนรายใหญ่นั้นจะจบลงตอนไหน บรรดานักวิเคราะห์นั้นต่างพูดกันได้แค่ว่า ปรากฏการณ์นี้จะต้องจบลงด้วยน้ำตาแน่ แต่เราก็ยังไม่เห็นว่าน้ำตาที่ว่าจะหลั่งตอนไหนกันแน่

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป